กระบองเพชร ต้นจิ๋ว จากความชอบสู่การสร้างรายได้
กระบองเพชร หรือ Cactus เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง มีถิ่นกำเนิดมาจาก อเมริกาใต้ และเอเชีย
เมื่อก่อนเราอาจจะคุ้นเคยแต่กับภาพ กระบองเพชร ลำต้นอวบใหญ่ หนามแหลม ยืนต้นแห้ง ๆ อยู่ในทะเลทราย แต่ปัจจุบันกระบองเพชรเป็นที่รู้จักและนิยมกันมากในฐานะไม้ประดับ บางคนเรียก cactus บ้างก็เรียก cacti สาเหตุที่กระบองเพชรเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่รักต้นไม้ ใช้ต้นไม้ประดับตกแต่งบ้าน สถานที่ทำงาน ไปจนถึงนักสะสม
เพราะสายพันธุ์ที่นำมาเพาะเป็นไม้ประดับนั้นมีขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดจิ๋ว รูปทรงก็แปลกตา ดูน่ารัก และหากเลี้ยงให้ถูกวิธีก็สามารถออกดอกให้ชื่นชมชื่นใจได้ด้วย แถมดอกต้นกระบองเพชรก็สวยงามน่ารักไม่แพ้ไม้ดอกชนิดอื่น ๆ เลย (แต่ต้องเลี้ยงให้ถูกวิธีเท่านั้นนะ)
นอกจากนี้ การเลี้ยงดูก็ใช้พื้นที่ไม่มาก บางพันธุ์ไม่ต้องใช้ดินเลยก็มี จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความสกปรกหรือแมลงดิน
วิธีการเลี้ยงดูก็ไม่ยากนัก แค่เรียนรู้และเข้าใจก็สามารถเลี้ยงดูกระบองเพชรได้แล้ว จึงเหมาะมากกับวิถีชีวิตคนเมืองที่อาศัยในคอนโดมิเนียม หรือ ทาวน์โฮมที่พื้นที่ค่อนข้างจำกัด และมีเวลาว่างไม่มากนัก
ราคาของกระบองเพชรในท้องตลาด
กระบองเพชรในตลาดไม้ประดับ หลัก ๆ จะแบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ
ระดับมือสมัครเล่น หรือ มือใหม่หัดปลูก สายพันธุ์ก็จะเป็นพันธุ์ทั่ว ๆ ไป มีความแข็งแรงทนทานในระดับหนึ่ง ราคาจะอยู่ที่ต้นละ 20 – 100 บาท
อีกระดับคือ ระดับนักสะสม มักเป็นสายพันธุ์ที่หายาก การเพาะต้องใช้เวลาและความพิถีพิถันเอาใจใส่ใจเป็นพิเศษ
ลักษณะภายนอกต้องสวยและดูดี มีดอกหรือไม่มีก็ได้ ถ้ามีดอกสวยงามราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก บางครั้งราคาจะสูงถึงต้นละ 3,000 – 4,000 บาทเลยทีเดียว
เพราะอย่างนี้ หลายคนที่มองหารายได้เสริม หรือ แม้แต่รายได้หลัก ก็หันมาให้ความสนใจกับการเพาะกระบองเพชรขาย เพราะลงทุนไม่มาก กำไรงาม สามารถสร้างรายได้หลักหลายหมื่นต่อเดือน
อยากเพาะกระบองเพชร ขาย เริ่มต้นยังไงดี?
สำหรับผู้ที่กำลังสนใจเพาะกระบองเพชรขาย อย่างแรกเลยที่คุณต้องทำ คือ การศึกษาข้อมูลให้เข้าใจธรรมชาติของต้นกระบองเพชรเสียก่อนว่าพืชชนิดนี้ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร
เลี้ยงดูอย่างไรจึงจะงอกงาม ก่อนที่จะลงทุนเพาะอย่างจริงจัง คุณควรทดลองปลูกเองให้รอดก่อน
จากตอนแรกอาจจะทดลองซื้อมาปลูกก่อนสัก 10 ต้น 2-3 สายพันธุ์ ทดลองปลูกจนชำนาญ เข้าใจธรรมชาติของพืขแล้วค่อย ๆ เพิ่มจำนวน และเพิ่มสายพันธุ์
ที่สำคัญควรคัดเลือกพันธุ์ให้ดี ควรศึกษาความต้องการของตลาด และดูความเหมาะสมของต้นทุนที่คุณมี
ต้นทุนนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเงินลงทุน แต่หมายรวมถึงขนาดพื้นที่ สภาพแวดล้อม และวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการเพาะด้วย
กระบองเพชรสายพันธุ์ไหนบ้างที่คนนิยมเลี้ยงกัน
เชื่อหรือไม่? ว่ากระบองเพชรจากทั่วโลก รวมๆ กันแล้วมีมากกว่า 127 สกุล และมากกว่า 2,047 สปีชีส์เลยทีเดียว!!
แต่วันนี้เราจะแนะนำให้รู้จักกับ 5 สายพันธุ์ ที่คนไทยนิยมกันมาก ได้แก่
1. แมมมิลลาเรีย ชูแมน (Mammillaria schumannii)
คนไทยเรียก แมมชูแมน จุดเด่นคือ เลี้ยงง่าย โตไว ให้ดอกเยอะ แถมดอกยังสวยงามใหญ่โตสะใจมาก
1 ต้นสามารถออกดอกได้มากกว่า 1 ดอก โดยดอกจะขึ้นรอบ ๆ ส่วนหัว หนามขึ้นเป็นแบบตุ่มหนามที่แหลมและแข็งงอเหมือนตะขอ ถ้าไม่ระวังมือไม้อาจบาดเจ็บได้
2.มิราเคิล คาบุโตะ (Miracle Kabuto)
อยู่ในสายพันธุ์แอสโตรไฟตัม (Astrophytum) ชื่อออกแนวญี่ปุ่น ๆ เพราะลักษณะเด่นของพันธุ์นี้ คือ มีลายจุดประสีขาวกระจายทั่วลำต้น มองคล้ายกลีบดอกซากุระที่เรียงกันเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงามและดูมหัศจรรย์เหมือนชื่อ
ที่สำคัญพันธุ์นี้ไม่มีหนามมาทิ่มแทงให้ปวดใจ แต่เป็นกลุ่มขนสีขาวเล็ก ปุกปุยน่ารัก สาว ๆ ส่วนใหญ่จึงนิยมเลี้ยงกัน
3. อิชินอปซิส (Echinopsis)
มาจากภาษากรีก หมายถึง เม่น ที่ได้ชื่อนี้เพราะอิชินอปซิสจะขึ้นเป็นกอนั่นเอง ออกดอกสีขาวเป็นกลุ่ม มีหนามเหมือนกันแต่ไม่แหลมคมเหมือนพันธุ์อื่น
ความพิเศษของอิชินอปซิสมี 2 อย่าง คือลำค้นที่ตอนต้นอ่อนจะกลมแป้นน่ารัก แต่พอโตแล้วจะยืดยาวเป็นทรงกระบอก
อีกอย่างคือดอกของอิชินอปซิส ดอกสีขาวที่บานสะพรั่งให้ชื่นชมแค่ช่วงเวลาที่จำกัด คือ ระหว่างเที่ยงคืนถึงแปดโมงเช้าเท่านั้น ถ้าเป็นช่วงหน้าร้อน อากาศร้อน ระยะเวลาบานของดอกก็จะสั้นไปด้วย
4. คอริแฟนธา อีเลเฟนทิเดนส์ (Coryphantha Elephantidens)
คนไทยเรียกว่า “ช้าง” (มาจาก Elephant ไง จำง่ายดี) จุดเด่นพันธุ์นี้อยู่ที่การลำต้นจะเป็นกลุ่มก้อนหน้าตาคล้ายรากโสม หรือ ศัพท์แสงในวงการที่เรียกกันคือ “มอนส์” ย่อมาจากมอนสเตอร์ (monster) หรือ สัตว์ประกลาดนั่นเอง
แต่ที่คนนิยมปลูกช้าง ไม่ใช่เพราะชอบของแปลก แต่เพราะดอกที่สวยและใหญ่โตของมันต่างหาก ดอกสีชมพูขนาดใหญ่ มักออกดอกช่วงหน้าฝน
5. Gymnocalycium
สายพันธุ์ที่โดดเด่นและได้รับความนิยมมากสุดทั้งในกลุ่มมือใหม่และในกลุ่มนักสะสม
ในขณะที่กลุ่มมือใหม่นิยมยิมโนหัวสี เพราะมีสีสันสดใส เช่น สีแดง สีเหลือง สีส้ม กลุ่มนักสะสมจะปลูกยิมโนด่าง ที่นิยมคือต้นที่เกิดจากการนำยิมโนมาผสมพันธุ์กันจนได้สีสันแปลกตา มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
สนนราคาก็ไม่เบาเลย ยิ่งถ้าเป็นสีสันที่หายาก คนทำได้น้อย ราคาจะสูงถึงต้นละ 150,000 บาทก็มี
เพาะกระบองเพชรขาย ให้งอกงาม กำไรดี ต้องทำอย่างไร
สำหรับมือใหม่ที่ต้องการเพาะกระบองเพชรขาย ได้ลงทุนน้อย ได้กำไรงาม ต้องคำนึงถึงปัจจัยสำคัญที่ทำให้กระบองเพชรที่เราเพาะ งอกงาม ลำต้นอวบ แข็งแรง ออกดอกสวย นั่นก็คือ “โรงเรือนที่เหมาะสม”
แม้ว่าโดยธรรมชาติ กระบองเพชรจะเป็นพืขที่ปลูกกลางแจ้ง รับแดดจัด ๆ เต็ม ๆ แต่นั่นคือกระบองเพชรแบบที่เราเห็นในหนังที่ต้นโต หนามเพียบ ผิวกร้านหยาบ หาความสวยงามไม่ได้
ถ้าเป็นกระบองเพชรจิ๋วที่เป็นไม้ประดับ ออกดอกสวยงามล่ะก็ เราต้องใช้โรงเรือนเพาะปลูก เพื่อควบคุมปัจจัย 4 อย่าง ที่ส่งผลต่อการเติบโตและความสวยงามของกระบองเพชร นั่นคือ
1. น้ำ
หลายคนเข้าใจผิดว่ากระบองเพชรเลี้ยงง่าย ไม่รดน้ำก็ได้ เอาน้ำอะไรรดก็ได้ หรือ บางคนคิดไปว่ารดหนัก ๆ หนเดียวแล้วอยู่ยาว ๆ ไปเลย บางคนก็ปล่อยกระบองเพชรให้ตากฝนถือเป็นการรดน้ำในตัว ซึ่งทั้งหมดนี้…ผิดมหันต์!
นอกจากกระบองเพชรจะไม่โตแล้ว เผลอๆ จะตายยกฟาร์มจนเราขาดทุนด้วย สาเหตุก็เพราะกระบองเพชรชอบน้ำที่ใสสะอาดจากแหล่งธรรมชาติ มีค่า ph สูงเล็กน้อย การรดก็ควรใช้ฝักบัวค่อย ๆ รด ไม่ใช่สายยางฉีด หรือ เทน้ำใส่ ยิ่งการปล่อยตากฝนนี่ยิ่งไม่ควรเลย เพราะจะทำให้เป็นเชื้อรา รากเน่าตาย ได้ง่ายมาก
โรงเรือน หรือ พลาสติกโรงเรือน เป็นตัวช่วยสำคัญเพื่อปกป้องต้นกระบองเพชรจากน้ำฝนที่ปริมาณมากและมีค่าความเป็นกรดสูงเกินไป
2. แสงแดด
ถึงแม้ว่ากระบองเพชรจะชอบแสงแดดมาก และเราควรให้กระบองเพชรได้สัมผัสแสงแดดวันละ 6 ชม. เป็นอย่างน้อย
แต่สำหรับแดดบ้านเราที่มีความเข้มข้นของแสงสูงมาก จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการอุ้มน้ำของต้นกระบองเพชรให้ลดลง น้ำและความชุ่มชื้นจะระเหยไปเร็วมาก อาจทำให้ต้นกระบองเพชรผิวหยาบ แคระแกรน ไม่อวบน้ำ และกลายเป็นสีน้ำตาล
ดังนั้นทางที่ดีโรงเรือนควรพรางแสงด้วยการใช้ สแลนพรางแสง 30% เพื่อลดความรุนแรงของแสงแดดและสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตของต้นกระบองเพชรได้มากที่สุด
3. อุณหภูมิ
อุณหภูมิที่เหมาะสมกับการเติบโตของกระบองเพชร คือ 27-32 องศาเซลเซียส
เมืองไทยเป็นเมืองร้อน อุณหภูมิปกติก็อยู่ราว ๆ นี้ ในทุก ๆ ฤดูกาลอยู่แล้ว จึงเหมาะสมกับการเพาะกระบองเพชร
ที่ต้องใส่ใจคือ โรงเรือนเพาะปลูกต้องสามารถคุมอุณหภูมิให้ไม่สูงเกิน กระบองเพชรจะสามารถทนร้อนได้มากถึง 45 องศาเซลเซียส แต่ถ้าร้อนมากเกินนี้ ถึงจะเป็นแกร่งแค่ไหนก็ตายได้
4. ลมและการถ่ายเทอากาศ
เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ สถานที่ปลูกกระบองเพชรต้องควบคุมสภาพแวดล้อมให้มีอากาศถ่ายเท ไม่อบไม่อับ มีลมโกรกตลอดวันให้พื้นที่ยิ่งแห้งยิ่งดี
กระบองเพชรทนร้อนได้ แต่ทนร้อนชื้นไม่ได้ ความร้อนชื้นจะทำให้เกิดเชื้อราและโรครากเน่า
ดังนั้นพลาสติกคลุมโรงเรือนที่เลือกใช้ ต้องเลือกที่สามารถป้องกันแสงแดดและความร้อนได้ดี แต่ต้องไม่ทึบ ควรทำจากวัสดุที่โปร่งและสามารถระบายอากาศได้ดี
การปลูกกระบองเพชรขาย สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำได้ หากผู้เลี้ยงมีความตั้งใจศึกษาข้อมูลความรู้อย่างละเอียด และทำตามกระบวนการขั้นตอนที่ถูกต้อง
ที่สำคัญคือ การเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ อาทิ วัสดุใช้ปลูก โรงเรือนเพาะปลูก พลาสติกคลุมโรงเรือน ฯลฯ ที่มีคุณภาพสูง ทนทาน ก็จะช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลกำไรได้ดี
****************************************************************************************************************
🌿Supreme Shading Net ไม่ว่าฤดูไหน ก็ทำการเกษตรได้‼️ ด้วยนวัตกรรมใหม่ สแลนพรางแสงกันฝนแบบ 2 in 1
👍ช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องจ่าย 2 ต่อ
👍เลือกพรางแสงได้ตั้งแต่ 20% – 50% ตามความต้องการของพืช
👍อายุการใช้งานนานถึง 10 ปี
👍มีจำหน่ายทั้งแบบปลีกสำหรับครัวเรือน
👍และยกม้วนสำหรับโรงเรือนขนาดใหญ่
สอบถามรายละเอียดและสั่งซื้อได้ที่
📞Line : @supremeshadingnet
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ✅www.supremeshadingnet.com
Facebook Supreme Shading Net
*************************************************************
ขอบคุณเครดิตภาพสวย ๆ จาก Freepik, Pinterest